ติดตามข่าวสาร กิจกรรมหรือโปรโมชั่นของทางร้าน บน Facebook คลิกที่นี่!! |
วีทกราส (Wheatgrass) หรือ ต้นข้าวสาลีอ่อน เป็นพืชที่มีประวัติมาอันยาวนาน นับแต่ยุคอียิปต์โบราณมานานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ได้รับการบันทึกในตำรายาของ กรีก โรมัน และ จีนมาแต่โบราณกาล แต่การศึกษาเกี่ยวกับต้นข้าวสาลีอ่อนอย่างจริงจังได้เริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณประโยชน์อันเร้นลับของต้นข้าวสาลีอ่อนได้ถูกค้นพบโดย ดร. ชารล์ส เอฟ ชเนเบล (Dr. Charles F. Schnabel) นักเคมีเกษตร ชาวอเมริกัน เมื่อประมาณ 80 กว่าปีที่แล้วมา หรือในปี คศ. 1930 ซึ่งได้ทำการทดสอบครั้งแรกโดยตัดต้นข้าวสาลีอ่อนมารักษาแม่ไก่ที่สุขภาพไม่ดีปางตายจนหายและยังสามารถผลิตไข่ได้ในอัตราที่สูงกว่าแม่ไก่สุขภาพดีทั่วไป จากการค้นพบดังกล่าวเขาได้นำมาประยุกต์เป็นอาหารเสริมสำหรับครอบครัวและเพื่อนบ้าน โดยการนำต้นข้าวสาลีอ่อนมาอบแห้งและบดเป็นผง เพื่อสะดวกต่อการบริโภค
ในปี 1931 ดร. ชเนเบลได้ทำการทดลองเพิ่มเติมและปรากฏผลดังเดิม แม่ไก่ที่กินต้นข้าวสาลีอ่อนสามารถออกไข่ได้มากกว่าปรกติถึง 2 เท่า
ดร. ชเนเบลจึงได้เริ่มเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว จนกระทั่งมีผู้ประกอบการรายใหญ่ คือ เควกเกอร์ โอ๊ต (Quaker Oats) และ อเมริกัน แดร์รี่ (American Dairies) ได้สนับสนุนการวิจัยหลายล้านดอลล่าร์ เพื่อการศึกษาและพัฒนาสินค้าจากต้นข้าวสาลีอ่อนอย่างจริงจัง ดังนั้นในปี คศ.1940 หรือ 10 ปีต่อมาจึงมีสินค้าที่ผลิตจากต้นข้าวสาลีอ่อนเป็นอาหารเสริมสำหรับคนและสัตว์วางจำหน่ายในร้านขายยาอย่างแพร่หลายทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ดร. ชเนเบลเป็นผู้ที่ค้นพบและกล่าวว่า “ต้นข้าวสาลีอ่อนหนัก 15 ปอนด์ มีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่าพืชทั่วไปที่หนักมากกว่า 350 ปอนด์” หรือ เทียบเท่า 1:23 เท่านั่นเอง
ในปี คศ. 1940 ชารล์ส เคตเตอร์ริ่ง (Charles Kettering) ประธานบอร์ดบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ ได้บริจาคเงินให้วงการแพทย์เพื่อการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารอาหารหลักในต้นข้าวสาลีอ่อน ผลการวิจัยที่ปรากฏในเอกสารทางการแพทย์มากกว่า 40 ฉบับได้สรุปว่าคลอโรฟิลล์เป็นสารที่มีคุณประโยชน์มหาศาลและสามารถรักษาโรคได้มากมาย คลอโรฟิลล์มีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับโครงสร้างของฮีโมโกลบินที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง สิ่งที่แตกต่างกัน เพียงอย่างเดียวก็คืออะตอมของธาตุที่ประกอบเป็นสารฮีโมโกลบิน นั้นคือธาตุเหล็ก ส่วนในคลอโรฟิลล์นั้นเป็นธาตุแมกนีเซียม ดังนั้นคลอโรฟิลล์ ถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์เม็ดเลือดได้ทันที ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ฟอกเลือดให้บริสุทธิ์และฟื้นฟูเซลล์ให้กลับสู่สภาพปกติสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ดร.เบนจามิน เกอร์สกิ้น แห่งมหาวิทยาลัยเทมเปิ้ล รายงานในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ เซอเจอรี่ ว่า คลอโรฟิลล์จากต้นข้าวสาลีอ่อนเป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้ดี มีคุณสมบัติทางฆ่าเชื้อโรคและมีคุณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายในการรักษาอาการต่างๆ เช่น ระงับกลิ่นตัว ต่อต้านอาการติดเชื้อต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส รักษาแผลรวมทั้งไปสมานแผลให้หายเร็ว และ อ้างถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางหู คอ จมูก 2 คน คือ นพ.เรดพาธ และนพ.เดวีส ได้ใช้คลอโรฟิลล์รักษาโรคหู คอ จมูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแผลในเยื่ออ่อน ทั้งแผลตื้นและลึกในผู้ป่วยกว่า 1,200 ราย ซึ่งผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจทั้งหมด
ในปี คศ. 1960 ดร.แอน วิกมอร์ เจ้าของโรงเรียนในมลรัฐบอสตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกับชาวอเมริกันทั่วไปที่มักจะรับประทานอาหารที่ขาดสมดุล ประกอบด้วยแป้ง ไขมันเกลือ และเนื้อสัตว์เป็นหลัก เมื่ออายุได้ 50 ปีได้ปวยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ขั้นสุดท้าย แพทย์ยืนยันว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่ดร.แอนไม่ย่อท้อ ได้คิดค้นทุกวิถีทางเพื่อการอยู่รอด และได้ค้นพบว่าเครื่องดื่มจากต้นข้าวสาลีอ่อนสามารถทำให้อาการอ่อนเพลีย ตกใจง่าย นอนไม่หลับ รวมถึงอาการมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการดีขึ้น จนกระทั่งหายไปในระยะเวลา 1 ปี อย่างมหัศจรรย์
ชาวจีนเชื่อว่า สีเขียวของต้นข้าวสาลีอ่อน ซึ่งหมายถึง คลอโรฟิลล์ สามารถฟอกเลือดและเพิ่มพลังชีวิต ต้นข้าวสาลีอ่อนที่ได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่จะมีคลอโรฟิลสูงถึง 70%ซึ่งช่วยสร้างเลือด อีกทั้งช่วยขับสารพิษในร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กำจัดสารอ๊อกซิแดนซ์ในเลือด ช่วยกระตุ้นขบวนการเผาผลาญอาหาร และระบบเอ็นไซม์ในร่างกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน และระบบการย่อยอาหาร ซึ่งทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติ
นอกจากนี้ต้นข้าวสาลีอ่อนที่ปลูกในพื้นดินออร์แกนิคในไร่ธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก จะสามารถดูดแร่ธาตุที่มีประโยชน์จากดินไว้ถึง 92 ชนิด จากจำนวนแร่ธาตุในดินทั้งหมด102 ชนิด มีทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โซเดียม และโปแตสเซียม นอกจากนั้นในต้นข้าวสาลียังอุดมด้วยโปรตีนในปริมาณสูงเพื่อตับอ่อนจะได้นำไปใช้ในการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน งานวิจัยมากมายระบุว่าในกล้าข้าวสาลีมีเบต้าแคโรทีน สารต้านมะเร็งมากมาย เช่น กรดแอบซิลิค วิตามินบี และวิตามินซีในปริมาณสูง โดยเฉพาะต้นข้าวสาลีอ่อนที่ปลูกในฤดูหนาวถึง 4 เดือน ซึ่งจะสะสมธาตุอาหารเพื่อการอยู่รอดรวมถึงคลอโรฟิลล์ซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์จากธรรมชาติ จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด ปลอดภัยจากเชื้อราจากการปลูกในระบบโรงเรือน ซึ่งไม่ได้แสงอาทิตย์เต็มที่
ต้นข้าวสาลีอ่อนเป็นพืชที่มีกากใยอาหารสูง มีความสามารถในการอุ้มน้ำ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณในกระเพาะ ทำให้อิ่มเร็ว ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนตัวของอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันจะช่วยในการขับถ่ายของเสียรวมทั้งสารพิษต่าง ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้ จึงให้ผลเหมือนยาระบายธรรมชาติช่วยป้องกันโรคท้องผูกและริดสีดวงทวาร
---------------------------------------------------------------------------
สนใจสั่งซื้อชุดปลูกข้าวสาลีสำหรับทดลองปลูกรับประทานเองหรือปลูกให้สัตว์เลี้ยงได้ที่นี่www.iOrganicPetShop.com แบรนด์คุณภาพ
สินค้าเกรด A คัดพิเศษสำหรับผู้รักษ์สุขภาพและสัตว์เลี้ยงแสนรัก
มั่นใจ ปลอดภัย วัตถุดิบปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ
ติดต่อ/สอบถาม
ผ่านทาง LINE
สะดวก ง่าย ทุกที่ทุกเวลา
LINE ID : @iorganichouse
(มี@นำหน้า)
หากไม่สะดวกสั่งทางหน้าเว็บ
กดปุ่มแอดไลน์ เพื่อสั่งซื้อได้เลยนะครับ
หน้าที่เข้าชม | 583,490 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 363,238 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 มิ.ย. 2568 |
i Organic House Official Store (ไอ ออร์แกนิค เฮ้าส์) จำหน่ายสินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยงและผู้รักษ์สุขภาพ เกรด Premium Product
อาทิ i Organic Grass ชุดปลูกต้นอ่อนข้าวสาลีสำหรับสัตว์เลี้ยง, เมล็ดข้าวสาลีคัดเกรดนำเข้า เมล็ดแคทนิป ไม้มาทาทาบิ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภท Pets Lovers ของใช้และสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง มาให้เลือกช็อปกันมากมาย
เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณ
ไอ ออร์แกนิค เฮ้าส์ 132/5 หมู่ที่ 8 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 26000 ประเทศไทย
i Organic House 132/5 m.8 Sarika sub-distric , Mueng ., Nakhon Nayok 26000 Thailand
Tel. 089-626-4194 e-mail: siam1.mail@gmail.com LINE Official : @iorganichouse LINE ID : iorganicpetshop